วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2559

ประเภทของเครื่องหอมไทย

เครื่องหอมไทยประเภทปรุงกลิ่น
           เป็นวิธีการปรุงเครื่องหอมแบบไทย ๆ ที่มีสืบต่อกันมานานตั้งแต่อดีต จนมาถึงปัจจุบันก็ยังมีอยู่ แต่จะหาได้ยากยิ่งนักที่จะเป็นการปรุงเครื่องที่ถูกวิธี ซึ่งส่วนใหญ่เครื่องปรุงในการทำเครื่องหอมประเภทปรุงกลิ่นมักจะเป็นพืชสมุนไพร หรือสิ่งที่มาจากธรรมชาติ เช่น ลำเจียก ดินสอพอง แก่นจันทน์เทศ ขี้ผึ้ง พิมเสน ชะมดเช็ด ฯลฯ หรือแม้แต่กระทั่งพืชสมุนไพร ผลหมากรากไม้ที่หาได้ง่ายที่ริมรั้ว เช่น ใบเตยหอม มะกรูด ดอกมะลิ กระดังงา กุหลาบ ฯลฯ ส่วนด้านในของอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตก็หาได้จากในครัวแบบไทย ๆ ของเราเอง เช่น ขวดโหล โถกระเบื้อง ผ้าขาวบาง กระบวยตักน้ำ เตาอั้งโล่ เทียนอบ เป็นต้น ซึ่งเครื่องหอมไทยประเภทปรุงกลิ่นที่เป็นที่นิยมและน่าสนใจในวิธีการปรุง อุปกรณ์ และวัตถุดิบ เช่น น้ำดอกไม้สด น้ำอบไทยไม่ใช้ดอกไม้สด ผ้าชุบน้ำอบอย่างเปียก น้ำปรุง ออดิโคโลณจน์ และน้ำหอม โดยเครื่องหอมชนิดต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมาข้างต้นมีวิธีการปรุงที่สลับซับซ้อน ต้องใช้ความพิถีพิถันเป็นอย่างมากในทุกขั้นตอนทุก ๆ ขั้นซึ่งหากสนใจจะศึกษาวิธีการปรุงก็คงไม่ยากเกินมือของคนไทยที่จะทำของไทย ๆ ใช้เองในครัวเรือน จากการศึกษาและค้นคว้ามาจากหนังสือเครื่องหอมไทยและของชำร่วยโดยผู้แต่งกล่าวถึงการทำเครื่องหอมไทยประเภทปรุงกลิ่นไว้ดังนี้
น้ำดอกไม้สด
น้ำดอกไม้สดนั้นเป็นที่นิยมกันมานาน ใช้ดื่ม เช่น น้ำลอยดอกมะลิสำหรับสำหรับดื่ม ทำน้ำเชื่อม ปรุงส่วนผสมของขนม ใช้ล้างมือ มือสำหรับเจ้านายใช้สรงน้ำ
น้ำอบไทยดอกไม้สด
น้ำอบไทยเป็นเครื่องหอมที่สำคัญที่สุด ในกระบวนการทำเครื่องหอม เพราะน้ำอบไทยมีประโยชน์หลายอย่างอย่าง ใช้ผสมทำแป้งร่ำ ทำกระแจะเจิมหน้า ผสมกับดินสอพองแป้งหินแป้งร่ำทาตัวยามร้อน แก้ผดผื่นคัน และทำให้หอมชื่นใจ ผสมทำบุหงาสด สรงน้ำพระ รดน้ำผู้ใหญ่ และใช้ในโอกาสต่าง ๆ ได้ตามประสงค์
น้ำปรุง
น้ำปรุงเป็นเครื่องหอมชนิดหนึ่ง ที่มีกลิ่นหอมเย็นให้ความรู้สึกแบบไทย ๆ ชวนให้รำลึกถึงอดีตที่น่าภูมิใจว่า สตรีในสมัยโบราณนอกจากจะมีการประแป้งแต่งตัว ลูบตัวด้วยน้ำอบน้ำปรุง แต่มาบัดนี้ สตรีส่วนใหญ่รู้จักแต่น้ำหอม ออดิโคโลญจน์ มาแทน
ออดิโคโลญจน์
ใช้ทาตัวในหน้าร้อนทำให้เย็น และหอมชื่นใจ บางครั้งผสมน้ำชุบผ้าเช็ดหน้า ผ้าขนหนู ใช้เช็ดหน้าทำให้สดชื่นขึ้น ออดิโคโลญจน์ มีหลายกลิ่น แต่เสนอเพียง 1 กลิ่น
น้ำหอม
น้ำหอมสามารถเลือกและปรุงกลิ่นได้ในปัจจุบัน ร้านขายผลิตภัณฑ์เครื่องหอมมีกลิ่นหอมที่ให้เลือกมากมาย หรือถ้าสนใจต้องการกลิ่นหอมที่แปลกออกไป จะสามารถซื้อหัวน้ำหอมแล้วนำมาปรุงกลิ่นผสมได้ตามต้องการ

เครื่องหอมไทยประเภทประทินโฉม

            เครื่องหอมไทยมีแตกต่างกันหลายชนิดออกไปแล้วแต่ลักษณะการนำไปใช้และกรรมวิธีการผลิตที่มีการนำเอาพืชหอมธรรมชาติที่มีอยู่ในเมืองไทยมาผ่านกรรมวิธีต่างๆและประยุกต์ให้เข้ากับยุกต์สมัยเป็นความคิดที่มีมานานตั้งแต่สมัยก่อนโดยการนำเอาความบริสุทธิ์จากธรรมชาติมาจรรโลงให้เข้ากับการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เครื่องหอมไทยประเภทประทินโฉมนี้มีอยู่ด้วยกันหลายชนิด อาทิ ดินสอพอง แป้งหอม แป้งผงกลิ่นไทย แป้งร่ำ แป้งเกสรดอกไม้ แป้งพวง เครื่องหอมไทยนี้เป็นการนำมาจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีการเจือปนด้วยสารสังเคราะห์หรือสารเคมีทางวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด เป็นภูมิปัญญาของคนไทยสมัยโบราณที่ทุกวันนี้เริ่มจะจางหายด้วยสารเคมีทางวิทยาศาสตร์ที่สังเคราะห์ขึ้นมาแทนที่ ในส่วนของกรรมวิธีในการทำก็มีแตกต่างกันไปในแต่ละรูปแบบว่าเราจะต้องการเมื่อมีวิธีการทำก็ต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำซึ่งสามารถหาได้ง่าย จากการที่ได้ศึกษาและค้นคว้ามาจากหนังสือเครื่องหอมไทยและของชำร่วยโดยผู้แต่งได้กล่าวถึงการทำเครื่องหอมไทยประเภทประทินโฉมไว้ดังนี้
ดินสอพอง
สมัยโบราณใช้เป็นเครื่องประทินผิว ทาตัวเด็กแก้ผื่นคัน ใช้ทาพื้นที่ลงรักให้เห็นลายชัดเจน ดินสอพองที่ใช้ทำยาจะนำไปสะตุ โดยอบในหม้อดินจนแห้ง ดินสอพองสะตุใช้ทำยารักษาแผลกามโรค แผลเรื้อรัง คำว่าสอในดินสอพองนั้นมาจากภาษาเขมรแปลว่าขาว ดินสอพองจึงหมายถึงดินสีขาวที่ไม่แข็งตัว
แป้งร่ำ
เป็นแป้งหินหรือแป้งนวลที่ผสมเครื่องหอมด้วยกรรมวิธีดั้งเดิม เพื่อใช้ผสมกับน้ำอบ ทำเป็นแป้งกระแจะใช้ในการเจิม หรือใช้ทาผิวหลังอาบน้ำ ใช้ผัดหน้า ทาตัว ทำให้หอมสดชื่น
แป้งพวง
เป็นศิลปะอย่างหนึ่งของคนไทย โดยนำแป้งร่ำมาหยอดบนเส้นด้ายแล้วนำมารวมกันเป็นพวง และนำแป้งเหล่านั้นมาผูกกับดอกไม้ นำมาใช้ทัดหู แต่งผม ปักมวยผม จะได้กลิ่นหอม สวยงาม ใช้เป็นของชำร่วยและใช้ติดเสื้อได้อีกด้วย
แป้งเกสรดอกไม้

แป้งเกสรดอกไม้มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ตามความประสงค์ของผู้ปรุง บ้างก็เรียกแป้งสารภี แป้งพิกุล ขึ้นอยู่กับผู้ปรุงมีความประสงค์ต้องการกลิ่นใดนำ

1 ความคิดเห็น: